พ่อค้าแม่ค้าที่เปิดร้านค้าออนไลน์เคยพบเจอกรณีเปิดบริการเก็บเงินปลายทางหรือ COD (Cash on Delivery) แล้วลูกค้าไม่รับแน่ ทำให้ร้านค้าเกิดความเสียหายและต้องพิจารณาว่าจำเป็นต้องปิดบริการเก็บเงินปลายทางหรือไม่ แล้วลูกค้าสั่งซื้อแล้วไม่รับของเก็บเงินปลายทาง ต้องทำยังไงดี มาหาคำตอบในบทความนี้ด้วยกัน
 


 

ทุกคนรู้เลยว่าการซื้อขายออนไลน์มีประโยชน์ที่ดีและไม่ดีกับผู้ขายและผู้ซื้อ ผู้ขายสามารถทำธุรกิจออนไลน์นอกจากออฟไลน์และเพื่มช่องทางการขายสร้างรายได้ได้ ผู้ซื้อสามารถเลือกซื้อสินค้าที่ตัวเองต้องการจากหลายๆช่องทาง สะดวกกับการใช้ชีวิตอย่างมาก

มีประโยชน์ที่ดีก็จะมีประโยชน์ที่ไม่ดี ผู้ขายจะมีเสี่ยงที่ลูกค้าสั่งของโดยชำระแบบเก็บเงินปลายทางแล้วปฏิเสธไม่รับของ เกิดความเสียหายทั้งค่าจัดส่ง ค่าตีกลับ และค่าเสียหายของสินค้าที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในระหว่างการขนส่ง และผู้ซื้อกลัวเจอมิจฉาชีพให้ชำระเงินไปแล้วแต่ไม่ได้รับของ หรือสินค้าที่ส่งมากับตอนที่สั่งแตกต่างมากเกินไป หรือส่งของที่ค่าไม่เท่ากัน เป็นต้น


สั่งซื้อของชำระแบบเก็บเงินปลายทางโดยที่ลูกค้าเลือกเอง แล้วทำไมสุดท้ายถึงไม่รับของ?

เราคิดว่าคนใดคนหนึ่งได้คิดดีๆแล้วก่อนจะตกลงสั่งซื้อของ แล้วทำไมลูกค้าบางรายสั่งของไปแล้วแบบเก็บเงินปลายทาง สุดท้ายกละบไม่รับของ อาจจะมีสาเหตุต่อไปนี้


เปลี่ยนใจ

คิดไปแง่ดีว่าลูกค้าได้คิดดีเลือกดีแล้วถึงจะสั่งซื้อของ คืออยากได้ของในตอนนั้นจริงๆ แต่พอสั่งไปแล้ว ร้านค้าถึงขั้นตอนการรอรับสินค้าและการจัดส่งแล้ว ลูกค้าคิดไปคิดมารู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่อยากต้องการของนี้มาก เอาเงินนี้ไปลงทุนอย่างอื่นยังคุ้มกว่า เลยสุดท้ายเปลี่ยนใจไม่อยากรับของ หรือเนื่องจากบริการจัดส่งช้าไป ไม่ได้ส่งถึงมือลูกค้าในลูกค้าที่ต้องการ โดยทำให้ลูกค้าเปลี่ยนใจซื้อจากร้านอื่นและปฏิเสธรับของงเก็บเงินปลายทางก็ได้


สั่งของผิด

ทุกคนเคยมีสถานการณ์เร่งรีบเนื่องจากมีธุระด่วนตอนเลือกซื้อของ เลยไม่ได้ดูของที่สั่งอย่างรายละเอียดมาก ว่าใช่ที่สินค้าที่ตัวเองต้องการหรือเปล่า สุดท้ายมีเวลาว่างไปเช็คดูรายละเอียดสินค้าแล้วปรากฎว่าสั่งผิดโดยไม่ใช่ไซส์ ขนาด คุณภาพที่ต้องการ ทำให้เกิดขึ้นที่ลูกค้าไม่รับของเก็บเงินปลายทาง



ลูกค้าไม่รับของเก็บเงินปลายทาง ทำยังไงดี
?


สิ่งที่ไม่คาดคิดสามารถเกิดขึ้นได้ในการซื้อขายออนไลน์ หากลูกค้าปฏิเสธไม่รับของเก็บเงินปลายทางโดยไม่มีเหตุผล ร้านค้าจะเดือดร้อนมาก ดังนั้นร้านค้าสามารถป้องกันสิ่งเหล่านี้ไม่ให้เกิดขึ้นได้โดยใช้วิธีดังต่อไปนี้

นัดเวลาจัดส่งสินค้ากับลูกค้าล่วงหน้า

ทางร้านค้าสามารถนัดเวลาจัดส่งพัสดุกับลูกค้าว่าผู้ขนส่งจะส่งของประมาณวันไหน เมื่อไร การชำระเท่าไร เพื่อเช็คดูว่าลูกค้าสะดวกรับของและเก็บเงินปลายทางในตอนนั้นไหม หรือฝากคนอื่นรับของเก็บเงินปลายทางแทน ป้องกันการที่ลูกค้าบอกว่าไม่รู้ขนส่งส่งของเข้ามาเมื่อไร หลีกเลี่ยงลูกค้าไม่ได้รับของแล้วโดนตีกลับมา


บวกกำไรสำหรับพัสดุที่เป็นเก็บเงินปลายทาง

ค่าบริการขนส่งสำหรับการส่งของเก็บเงินปลายทางจะสูงกว่าการส่งของแบบทั่วไป ดังนั้น หากร้านค้ามีการขายสินค้าแบบเก็บเงินปลายทาง สามารถบวกกำไรเข้าในราคาขายของตามเหมาะสมได้ เวลาเกิดขึ้นกรณีที่ลูกค้าไม่รับของเก็บเงินปลายทาง ร้านค้าสามารถทดแทนความเสียหายในส่วนนี้


เช็คดูประวัติการซื้อขายของลูกค้าก่อนทำการซื้อขาย

ก่อนทำการซื้อขายแบบเก็บเงินปลายทาง ร้านค้าสามารถเช็คดูประวัติของลูกค้าได้ในบาง Maketplace เช็คดูคะแนนลูกค้าว่าการซื้อขายของเขาเป็นยังไงบ้าง ดีหรือไม่ดี แล้วค่อยตกลงจะซื้อขายหรือไม่


สรุป

การเปิดบริการเก็บเงินปลายทางจะให้ความมั่นใจในการซื้อของออนไลน์สำหรับลูกค้า และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับร้านค้า โดยลูกค้าส่วนมากจะยินยอมเลือกซื้อร้านค้าที่มีบริการเก็บเงินปลายทางมากกว่า แล้วการรับของและชำระเงินเก็บปลายทางจะอยู่ที่ความรับผิดชอบของตัวเอง เลือกบริการเก็บเงินปลายทางไปแล้วก็ควรรับของเก็บปลายทาง ไม่ส่งผลต่อคนอื่น