ยิงโฆษณา Facebook หรือ Google อะไรดีกว่าสำหรับธุรกิจคุณ?
ฟ้า 28 พ.ค. 2025 07:45Copy link & title
ยิงโฆษณา Facebook หรือ Google อะไรดีกว่าสำหรับธุรกิจคุณ?
ในยุคดิจิทัลที่การตลาดออนไลน์กลายเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จของธุรกิจ หลายคนอาจตั้งคำถามว่า “ควรยิงโฆษณาผ่าน Facebook หรือ Google ดีกว่ากัน?” คำตอบที่ถูกต้องที่สุดคือ "ขึ้นอยู่กับเป้าหมายธุรกิจของคุณ" — เพราะแต่ละแพลตฟอร์มมีจุดแข็ง จุดอ่อน และกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
จุดเด่นของ Facebook Ads
1. เหมาะกับการสร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness)
Facebook เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ผู้ใช้เข้ามาเพื่อดูข่าวสาร ไลฟ์สไตล์ และความบันเทิง ซึ่งเหมาะมากกับการสร้างภาพจำของแบรนด์หรือโปรโมตสินค้าใหม่
2. ระบบการตั้งค่ากลุ่มเป้าหมายที่แม่นยำ
คุณสามารถยิงโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมายตามเพศ อายุ ที่อยู่ ความสนใจ พฤติกรรมการใช้งาน และแม้แต่สถานะความสัมพันธ์ได้อย่างละเอียด
3. เหมาะกับสินค้าที่กระตุ้นการตัดสินใจผ่านภาพสวยหรือวิดีโอน่าสนใจ
เช่น เสื้อผ้า เครื่องสำอาง อาหาร หรือของใช้ทั่วไปที่ผู้บริโภคอาจไม่ได้ค้นหาเอง แต่เกิดความสนใจเมื่อเห็น
จุดเด่นของ Google Ads
1. เหมาะกับการดึงดูดผู้ที่กำลัง “ค้นหา” สินค้าหรือบริการอยู่แล้ว
หากธุรกิจของคุณขายสินค้าที่ผู้คนมีความต้องการชัดเจน เช่น "ประกันรถยนต์" หรือ "ร้านซ่อมมือถือใกล้ฉัน" — การยิงโฆษณาผ่าน Google Search Ads จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีโอกาสซื้อสูงกว่ามาก
2. การแสดงผลตรงตามเจตนาผู้ใช้ (Intent-based)
Google Ads แสดงโฆษณาเมื่อมีคนค้นหาคีย์เวิร์ดนั้นโดยตรง ทำให้มีแนวโน้มที่จะเกิด Conversion (เช่น คลิกสั่งซื้อหรือกรอกฟอร์ม) ได้มากกว่า
3. เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการเน้นยอดขายหรือสมัครบริการแบบเฉพาะเจาะจง
แล้วธุรกิจของคุณควรเลือกอะไร?
ประเภทธุรกิจ/เป้าหมาย |
ควรใช้ Facebook Ads |
ควรใช้ Google Ads |
ขายสินค้าแฟชั่น/ไลฟ์สไตล์ |
✅ เยี่ยม |
❌ ไม่เหมาะ |
ธุรกิจบริการเช่นช่างแอร์/ร้านซ่อม |
❌ ไม่ตอบโจทย์ |
✅ ตรงเป้า |
ต้องการสร้างแบรนด์ใหม่ |
✅ ดีมาก |
❌ ไม่ใช่แนว |
ต้องการยอดขายทันทีจากคนที่สนใจอยู่แล้ว |
❌ มีแต่คลิกเล่น |
✅ มีโอกาสปิดการขายสูง |
สรุป
ถ้าคุณต้องการ สร้างแบรนด์ กระตุ้นการรับรู้ หรือแสดงสินค้าในเชิงไลฟ์สไตล์ — Facebook คือคำตอบ
ถ้าคุณต้องการ ขายของหรือให้บริการแก่คนที่ “ต้องการอยู่แล้ว” — Google จะให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำกว่า
แต่ในความเป็นจริง แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จมักใช้ทั้งสองแพลตฟอร์มควบคู่กันอย่างชาญฉลาด โดยใช้ Facebook เพื่อสร้างความสนใจ และใช้ Google เพื่อปิดการขายในช่วงที่ลูกค้าพร้อมซื้อ