เออออจนยอดพุ่ง! ถอดกลยุทธ์ ER-OR ทำยังไงให้คนไทยอยากแชร์ อยากซื้อ
ฟ้า 08 ส.ค. 2025 03:00Copy link & title
ในยุคที่เทรนด์บน TikTok มาไวกว่าอาหารเดลิเวอรี สินค้าบางชิ้นขายได้หลักพันชิ้นในวันเดียว ไม่ใช่เพราะโฆษณาหนักแต่เพราะ “ติดกระแส” แล้วคนแชร์กันเป็นทอด ๆนักการตลาดจึงเริ่มพูดถึง ER-OR Strategy มากขึ้น เพราะมันคือหัวใจของ “การทำให้คนหยุดดู → รู้สึก → อยากได้ → แชร์ต่อ” ได้อย่างธรรมชาติ
ER-OR คืออะไร?
ER-OR Strategy แบ่งออกเป็น 2 ส่วนง่าย ๆ:
🔹 ER = Emotional Response
กระตุ้น “อารมณ์” ให้คนรู้สึกบางอย่างทันที
เช่น: ว้าว, ฮา, อิน, น้ำตาไหล, เกลียดตัวเองที่เพิ่งรู้, ต้องส่งให้เพื่อนดู
ตัวอย่าง: “นี่คือวิธีทำให้แฟนเลิกงอนใน 10 วินาที”
“ร้านนี้ใช้แค่เทป 1 ม้วนจัดการออเดอร์วันละ 300 กล่อง!”
🔹 OR = Observable Response
ทำให้คนรู้สึกว่า “ต้องแชร์”, “ต้องตามไปซื้อ”, “ต้องบอกเพื่อน” เพราะมัน “เห็นผล” หรือ “เห็นว่าคนอื่นก็ทำตาม”
ตัวอย่าง: "แม่ค้าคนนี้จัดออเดอร์เร็วขึ้นเพราะใช้สิ่งนี้"
"คนแห่ซื้อเพราะเห็นในคลิปแล้วต้องลอง"
การรีวิวจริง+ใช้จริง → ทำให้คนเชื่อและ “อยากมีส่วนร่วม”
สรุปก็คือ ER ทำให้ “อิน” ส่วน OR ทำให้ “แชร์” และ “คล้อยตาม”
ทำไม ER-OR ถึงได้ผลกับตลาดไทย?
ER-OR คืออะไร?
ER-OR Strategy แบ่งออกเป็น 2 ส่วนง่าย ๆ:
🔹 ER = Emotional Response
กระตุ้น “อารมณ์” ให้คนรู้สึกบางอย่างทันที
เช่น: ว้าว, ฮา, อิน, น้ำตาไหล, เกลียดตัวเองที่เพิ่งรู้, ต้องส่งให้เพื่อนดู
ตัวอย่าง: “นี่คือวิธีทำให้แฟนเลิกงอนใน 10 วินาที”
“ร้านนี้ใช้แค่เทป 1 ม้วนจัดการออเดอร์วันละ 300 กล่อง!”
🔹 OR = Observable Response
ทำให้คนรู้สึกว่า “ต้องแชร์”, “ต้องตามไปซื้อ”, “ต้องบอกเพื่อน” เพราะมัน “เห็นผล” หรือ “เห็นว่าคนอื่นก็ทำตาม”
ตัวอย่าง: "แม่ค้าคนนี้จัดออเดอร์เร็วขึ้นเพราะใช้สิ่งนี้"
"คนแห่ซื้อเพราะเห็นในคลิปแล้วต้องลอง"
การรีวิวจริง+ใช้จริง → ทำให้คนเชื่อและ “อยากมีส่วนร่วม”
สรุปก็คือ ER ทำให้ “อิน” ส่วน OR ทำให้ “แชร์” และ “คล้อยตาม”
ทำไม ER-OR ถึงได้ผลกับตลาดไทย?
เพราะ คนไทยมักจะไม่ได้ซื้อของเพราะเหตุผล...แต่หลักๆซื้อเพราะ “ความรู้สึก”
เช่น “คนอื่นมี เราก็ต้องมี” “รีวิวดีจนทนไม่ไหว”
“มันดูง่าย ดูปัง ต้องลอง!”
และที่สำคัญ: พฤติกรรมคนไทยมักจะเป็นแบบ “ทอดกระแส”
→ คนหนึ่งเริ่มทำ → เพื่อนแชร์ → อีกกลุ่มซื้อซ้ำ → กลายเป็นไวรัล → ร้านขายดีระเบิด
แล้วแบรนด์หรือร้านค้าควรทำยังไง?
1. สร้างคลิปที่กระตุ้นอารมณ์
- ใช้ Hook แรงใน 3 วินาทีแรก
- ใส่อารมณ์ในเสียง พากย์ หรือมุมกล้อง
- ถ้าขายไม่ได้ ก็ใช้วิธีฟิล "บันเทิง" ไปเลย
2. ใช้เสียง + Hashtag ที่ “คนอื่นใช้แล้วเวิร์ก”
- เพลงที่ติดหู
- Hashtag ที่กำลังไวรัล เช่น #ใช้ดีบอกต่อ #fyp และใช้ Hashtagให้ตรงกับสินค้าหรือคลิปที่เราต้องการลง
3. ทำให้เกิดความรู้สึกว่า "ต้องซื้อก่อนจะตกเทรนด์"
- โปรจำกัดเวลา
- ของเหลือน้อย
- ใครเร็ว ใครได้
สินค้าธรรมดา ก็กลายเป็นไวรัลได้ ถ้าวางอารมณ์ + กระแสให้ถูกที่
ไม่จำเป็นต้องเป็นของใหม่ แค่ต้องรู้วิธีเล่าให้ “กระตุ้น” ได้ เช่น
- ผ้าถูพื้น → กลายเป็นคลิปแก้ปัญหาแม่บ้าน
- แก้วน้ำธรรมดา → กลายเป็น aesthetic life style
- กล่องพัสดุ → กลายเป็นคลิป “จัดออเดอร์ 300 กล่องแบบไม่เหนื่อยเลย”
สรุป: ขายดีในยุคนี้ = ขายให้ “อิน” และ “มีส่วนร่วม”
เมื่อคุณเข้าใจหลัก ER-OR Marketing คุณจะรู้ว่าแค่ “บอกว่าของเราดี” มันไม่พอ
ต้องทำให้คน รู้สึก บางอย่าง และ เห็น ว่าคนอื่นก็อยากมีส่วนร่วมด้วย แต่ถ้าไวรัลแล้วระบบไม่พร้อม = ยอดขายหลุดมือ ให้ BigSeller เป็นระบบหลังบ้านที่พร้อมโตไปกับคุณ
- เชื่อม TikTok Shop, Shopee, Lazada ได้ในระบบเดียว
- จัดการสต๊อก-ออเดอร์แบบมืออาชีพ
- รองรับการเติบโตเมื่อคลิปไวรัล หรือแคมเปญปัง
- เชื่อมขนส่ง-พิมพ์ใบปะหน้า-แจ้งเลขพัสดุ ได้ครบ
เพราะ คลิปไวรัลสร้างยอดขายได้ แต่ BigSeller ช่วยให้คุณ “รองรับยอดขายนั้นได้จริง”
ใช้ BigSeller ก้าวสู่การเป็นผู้ค้ารายใหญ่
