Infographic VS Motion คอนเทนต์ไหนเข้าถึงใจลูกค้า

เรื่องราวของแบรนด์ สามารถสื่อสารออกไปได้หลายรูปแบบ ทั้งภาพนิ่งและเคลื่อนไหว ไปดูกันว่า Infographic VS Motion Graphic คอนเทนต์ไหนเข้าถึงลูกค้าครบจบในโพสต์เดียว

Content Marketing สร้างแบรนด์ และสื่อสารให้ตรงจุด

ในโลกที่ทุกอย่างต้องสื่อสารอย่างทันที ตามกระแส อยู่ในเทรนด์ การที่จะออกแบบหรือคิด Content Marketing ที่สามารถสื่อสารแบรนด์ไปยังลูกค้าได้ตรงจุด ตรงประเด็นได้นั้น รูปแบบในการนำเสนอก็มีจุดที่สำคัญอย่างมากสำหรับเรื่องราวต่าง ๆ นั้น ไม่ว่าจะโพสต์ผ่านบทความออนไลน์ โปสเตอร์ ภาพนิ่ง หรือเคลื่อนไหว

เพราะคอนเทนต์ที่ดี ไม่ควรเน้นขายจนมากเกินไป จะเสี่ยงให้ผู้อ่านเลื่อนโพสต์ผ่านไปได้ ยิ่งในสังคมปัจจุบันการสร้างความประทับใจดีตั้งแต่แรกเจอ 3 วินาทีแรกที่เห็น หากคุณสามารถสร้างภาพจำที่ดี แตกต่าง และว้าวได้ จะทำให้ลูกค้าสร้างการแชร์ หรือบอกต่อให้กับเพื่อนบนโลกโซเชียลมีเดียได้แบบไม่ต้องลงทุนในการทำโฆษณาออนไลน์แน่นอน

ดังนั้นไปดูกันว่าระหว่าง Infographic และ Motion Graphic จะให้ความรู้สึก และความแตกต่างกันมากน้อยเพียงใด ในการสร้างคอนเทนต์ให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้อยู่หมัด

Infographic

คือ เรื่องราว ข้อมูลรายละเอียดของแบรนด์ หรือสินค้า ที่ต้องการจะสื่อสารให้ลูกค้ารับรู้ ผ่านการออกแบบทั้งในส่วนของเนื้อหา และภาพ โดยถูกออกแบบมาในลักษณะของโปสเตอร์ หรือที่เราเรียกกันว่า ภาพนิ่ง โดยสามารถสื่อสารได้ครบจบในรูปเดียว โดยง่ายต่อการแชร์ หรือบอกต่อของลูกค้าได้

Motion Graphic

คือ การออกแบบเรื่องราว ผ่านการใส่ความน่าตื่นเต้นลงไป นั่นก็คือการเคลื่อนไหวภายในรูป เป็นการลงรายละเอียดเพิ่มเติมให้ดูสมจริง สร้างเรื่องราวให้น่าสนใจเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง

แน่นอนว่าทั้งสองรูปแบบจะใช้งานได้ดีขึ้น หากคุณสามารถวางแผนการใช้งานได้ตรงจุดของสินค้าของคุณ เลือกรูปแบบให้ตรงกับธุรกิจของคุณ

มีหลายแพลตฟอร์ม ให้ Kaikong บริหารจัดการ Social Media ให้คุณ

หากคุณยังทำการขายเพียงในช่องทางเดียว หรือยึดแพลตฟอร์มเดียวในการทำการตลาด บอกเลยว่าพลาดมาก เพราะในปัจจุบัน Market Place เกิดขึ้นเยอะมาก ที่จะเพิ่มยอดขาย สร้างการรับรู้ให้แก่แบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Shopee, TikTok, Instragram, Lazada และ LINE หรือช่องทางอื่น ๆ อีกมากมาย

จะดีกว่าไหม หากมีผู้เชี่ยวชาญที่มากประสบการณ์ในการบริหารจัดการ Social Media หรือ รับทำ content marketing ซึ่ง Sellsuki สามารถตอบโจทย์และให้การบริการผ่าน Kaikong ผู้ที่จะมาจัดการ ดูแล ตั้งแต่ก่อนขาย วางแผนการตลาด ไปจนถึง ตอบแชทลูกค้าด้วยแอดมินมืออาชีพ ที่รับรองเลยว่า คุณสามารถปิดการขาย และดันยอดได้เกินเป้าที่วางไว้อย่างแน่นอน

และหากไม่อยากพลาดเรื่องราวดี ๆ แบบนี้ ก็อย่าลืมกดติดตาม Facebook และ Youtube ของเซลสุกิ ไว้ด้วยนะครับ