รวม Facebook Page Updates อะไรบ้าง

อย่ารอช้า! มาเริ่มกันที่การรวบรวม 12 ข้อสำคัญของ Facebook Page Features 2023 ที่มีการอัพเดตเนื้อหาบางอย่างและลดบางอย่างเพื่อประสิทธิภาพในการใช้งานที่ดีกว่าซึ่งจะมีอะไรบ้างมาดูกัน

1. Business Suite ตัวช่วยใหม่ไฉไลกว่าเดิม เริ่มกันที่ตัว Business Suite ที่ถูกนำมาใช้แทนที่ “Facebook’s Creator Studio” ด้วยข้อดีของหน้าตา Dashboard (หน้าจอที่สรุปข้อมูล) และ Insight (ข้อมูลเชิงลึก) ที่ค่อนข้างให้ความเป็นมืออาชีพในการวิเคราะห์และแสดงผล รวมถึงการตั้งเวลาโพสต์ที่สามารถทำได้พร้อมกันทั้ง FB และ IG รวมถึงลูกเล่นเครื่องมือที่ต้องยอมรับเลยว่ามีการรายงายข้อมูลต่าง ๆ เช่น ยอดการเข้าชม (Engagemet) การแยกแสดงข้อมูลคอนเทนต์ หรือวีดิโอที่ค่อนข้างละเอียดจึงสามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์เพื่อการตลาดได้ค่อนข้างดีเยี่ยม

2. สลับแอคเคาน์ง่าย ๆ ได้ที่โปรไฟล์ โดยการแยกแอคเคาน์ออกจากกันอย่างชัดเจนซึ่งต่างจากเมื่อก่อนที่สามารถใช้โปรไฟล์ส่วนตัวแก้ไขข้อมูลเพจได้ทันที แต่ในปัจจุบันต้องสลับแอคเคาน์เพื่อทำการแก้ไขเพจเท่านั้น ซึ่งสามารถทำได้ง่ายขึ้นแค่กดตรงรูปโปรไฟล์มุมขวาก็จะเปลี่ยนจากเฟสส่วนตัวเป็นเพจร้านได้เลย แต่อาจจะแอบหงุดหงิดใจเล็กน้อยเมื่อโพสต์ข้อความบนเพจแล้วอยากแก้ไขทันที อาจจะทำไม่ได้เพราะต้องสลับแอคเคาน์ทุกครั้งซึ่งยังไงช่วงแรก ๆ ที่เห็นก็พยายามสลับบัญชีให้ชินจะได้รู้สึกไม่หงุดหงิด



3. เพิ่มความถี่ในการแจ้งเตือน ถัดมาจากการแจ้งเตือนที่แยกระหว่างเฟสบุ๊กส่วนตัวกับเพจในปัจจุบันได้นำมารวมกันซึ่งไม่ว่าคุณจะอยู่แอคเคาน์ไหนก็สามารถรับแจ้งเตือนทุกบัญชี เช่น รีแอ็กชันโพสต์ การแชร์โพสต์ การเข้าร่วมกลุ่ม การติดตาม การถูกใจเพจใหม่ หรือการกล่าวถึงที่มีข้อดีตรงที่ช่วยให้คุณรู้ความเคลื่อนไหวของเพจได้ดีขึ้นส่งผลต่อการตอบกลับ มีรีแอ็กชั่นกับผู้ติดตามเพจได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องสลับแอคเคาน์เพื่อเข้าไปดู

4. เปลี่ยนไซซ์ภาพหน้าปกให้ดูมืออาชีพ ที่ในอดีตจะกำหนดสัดส่วนภาพหน้าปกอยู่ที่ 1200 x 800 px แต่ในปัจจุบันได้มีการปรับให้ทุกเพจบนเฟสบุ๊กใช้สัดส่วนภาพที่ 2:3 หรือโพสต์ที่มีอัลบั้มย่อยมากกว่า 3 ภาพขึ้นไปจะต้องทำขนาดปกที่ไซซ์ 1:1 แล้วนำมาต่อกันซึ่งจัดเป็นการแบ่งภาพขนาด 1200 x 1200 px โดยเลี่ยงการวางตัวอักษรที่จะโดนผ่ากึ่งกลางภาพ รวมถึงการเว้นช่องไฟของทั้ง 2 ภาพอยู่ 20px จะทำให้ภาพนั้นอยู่ในระยะที่ทับกันพอดีซึ่งหากใครที่ยังคุ้นเคยกับขนาดภาพแบบเก่าก็คงต้องถึงเวลาเปลี่ยน

5. จำแนกข้อมูลได้ลึกกว่าเดิม โดยหากสังเกตจากข้อมูลเดิมที่จะแสดงผลรวม (Overview) เป็นกราฟ แต่ในปัจจุบันได้มีการปรับทั้ง Dashboard และ Insight ให้มืออาชีพมากขึ้นจึงส่งผลต่อการแสดงข้อมูลสรุปภาพรวมทั้งหมด เช่น ยอดการเข้ามามีส่วนร่วม (Engament) ยอดการเข้าชม (Reach) ยอดผู้ติดตาม (Followers) ยอดไลก์ (Like) รวมถึงยอดการตอบโต้ หรือการสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้งาน (Interactions) ที่เห็นยอดสรุปทั้งหมดได้ละเอียดและลึกมากขึ้น

6. Post insight ที่ให้ข้อมูลอย่างละเอียด ซึ่งจะโฟกัสไปที่ข้อมูลโพสต์ โดยสามารถเลือกดูคอนเทนต์ตามระยะเวลาที่โพสต์ ลำดับยอดการเข้าถึง การเข้ามามีส่วนร่วม จำนวนครั้งที่แสดงโฆษณาได้ค่อนข้างละเอียด รวมถึงข้อมูลย่อย ๆ ในการรีแอคชั่นจากผู้ใช้งานว่ามีการกดแสดงความรู้สึกอะไรบ้าง รวมถึงยอดคลิกลิงก์ต่าง ๆ ว่ามีจำนวนเท่าไร



7. เพิ่มคำแนะนำ จุดประกายไอเดีย ที่แม้ในอดีตเคยมีอยู่บ้าง แต่พออัพเดตใหม่ก็เพิ่มการจัดหน้าให้มีระเบียบทำให้ดูง่ายมากขึ้น รวมถึงมีการจัดแบ่งเนื้อหาที่แนะนำออกเป็น 3 ส่วนหลักได้แก่

แนะนำคอนเทนต์วิดีโอสั้นสไตล์คล้ายเพจ หรือคอนเทนต์ที่คุณชอบดูซึ่งช่วยจุดประกายไอเดียเกิดเป็นคอนเทนต์ใหม่ ๆ
แนะนำ Popular topics คอนเทนต์ที่กำลังได้รับความนิยมซึ่งในปัจจุบันอาจจะยังไม่ตรงจุดมากนักเนื่องจากจะเน้นเนื้อหาภาษาอังกฤษเป็นส่วนใหญ่
แนะนำเหล่าครีเอเตอร์ยอดนิยมบนแพลตฟอร์มที่จะช่วยให้คนที่อยู่แวดวงเดียวกันสามารถดูไอเดียภาพรวมแล้วนำไปปรับใช้ให้เข้าสไตล์ที่ทำอยู่ได้

การจัดแบ่งเนื้อหาทั้ง 3 แบบจึงค่อนข้างมีส่นเติมเต็มในการหาไอเดียให้กับผู้ที่ทำคอนเทนต์ รวมถึงทิศทางว่าควรลองทำคอนเทนต์ใหม่ ๆ แนวไหน

8. จัดการทุกคอมเมนต์แค่คลิกเดียว เมื่อเข้าไปที่ Professional Dashboard ก็จะเจอกับเครื่องมือที่เปรียบเสมือนตัวกรองคอมเมนต์ทั้งหมดจากเพจที่สามารถตรวจสอบได้ว่าคอมเมนต์โพสต์ต้นฉบับมาจากไหน โดยกดไปที่ View thread รวมถึงยังสามารถค้นหาคอมเมนต์ด้วยชื่อผู้ใช้ คอมเมนต์ที่มีการกดไลก์ ที่ซ่อนไว้ มีการยกเลิก กดลบ หรือตอบกลับ รวมถึงการรายงายที่สามารถจัดการทั้งหมดได้แค่คลิกเดียวจึงค่อนข้างง่ายต่อการติดตามผล (Monitoring)


9. Facebook Stars ตัวช่วยใหม่ ช่วยสร้างรายได้ให้ครีเอเตอร์ “ชอบใครก็ให้ส่งดาว” ด้วยลูกเล่นทีมีเข้ามาให้สนุกมากมายทั้ง Facebook Stars, Stars Party, Virtual Gifts หรือ Filter Comment Manager เป็นต้นที่สร้างขึ้นเพื่อสร้างรายได้ให้แก่ครีเอเตอร์และมีส่วนช่วยในการเพิ่มยอดผู้ติดตามจากการพูดคุยกับคนที่มีการส่งดาวมาให้ซึ่งจะมีเงื่อนไขอยู่ว่าจะส่งดาวมาพูดคุยได้ต้องมียอดผู้ติดตามมากกว่า 1,000 ภายใน 60 โดยจะใช้ฟีเจอร์นี้เฉพาะแค่  Reels และ Live


10. โพสต์ Reel ข้ามแพลตฟอร์ม ที่ให้คุณโพสต์ Short-form Video หรือวิดีโอสั้นที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบันได้ง่ายมากขึ้นทั้ง FB และ IG ที่สามารถแชร์จากแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่งให้แสดงทั้ง 2 แพลตฟอร์มได้ง่าย ๆ ทีให้มีคนมองเห็นคุณได้ทั้งเฟสบุ๊กและไอจี


11. เรียกเก็บโฆษณาแบบ “Self-Serve Advertising” มาถึงเรื่องสำคัญที่พ่อแม่ค้าแม่ค้าทั้งหมดงุนงงเมื่อในปัจจุบันได้เปลี่ยนระบบในการจัดเก็บค่าโฆษณาแบบ “Self-Serve Advertising” หรือ “โฆษณาแบบบริการตัวเอง” ที่คนยิงจะต้องมีการวางแผนรัดกุมมากขึ้นจึงไม่แปลกใจว่าทำไมหลายคนถึงกุมขยับ โดยมีรายละเอียดดังนี้


การชำระเงินค่ายิงแอดที่ทำได้แบบ Advertiser Balance ที่จะต้องการผูกบัตร หรือเติมเงินเข้าไปก่อนถึงจะยิงโฆษณาได้
การเข้าถึงบัญชีโฆษณา Facebook ที่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของเจ้าของบัญชีที่มีการตรวจสอบรายการเครดิตธุรกิจ การกระทำผิดกฎของผู้ใช้งานที่อาจจะถูกปฎิเสธ หรือโดนลบโฆษณาทันที
การรักษาความปลอดภัยบัญชีตนเองซึ่งถ้าหากโดนแฮก Facebook จะไม่รับผิดชอบ รวมถึงค่าใช้จ่ายที่เสียไปจากการถูกแฮกด้วย
ชำระเงินช้าเกินกำหนดโดยคิดดอกเบี้ย 1% ต่อเดือน

12. ควบคุมการยิงโฆษณาในกลุ่มเด็กต่ำกว่า 18 เพราะโซเชียลมีเดียนั้นเปรียบเสมือนดายสองคมด้วยความไร้พรมแดนจากการรับข้อมูลแบบไร้ขีดจำกัดที่ในบางครั้งเนื้อหา หรือข่าวสารที่ได้รับไม่ได้ถูกกลั่นกรองก่อนถึงเด็กกลุ่มต่ำกว่า 18 จึงส่งผลแง่ลบต่อพฤติกรรม การกระทำและมุมมองความคิดที่อาจจะย้อนกลับมาทำร้ายพวกเขาได้ Facebook จึงจำเป็นต้องควบคุมสื่อกับเด็กกลุ่มเหล่านี้ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการยิงโฆษณา รวมถึงการยกเลิกการระบุเพศ การถูกผิดกั้นการมองเห็นเกี่ยวสื่อแอลกอฮอล์ สินค้าทางการเงิน การลงทุนบางอย่าง หรือเรื่องคามสวยความงามต่าง ๆ ที่อาจเชิญชวนให้หลงเชื่อด้วยคำโฆษณา

Facebook Updates 2023 จะเห็นได้ว่ามีประมาณ 12 ข้อหลัก ๆ ด้วยกันที่ส่วนใหญ่จะเน้นปรับปรุงรูปแบบการดีไซน์ ฟีเจอร์ต่าง ๆ รวมถึงการแสดงผลข้อมูลที่มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น รวมถึงการโฆษณาที่ปิดกั้นการยิงในเด็กกลุ่มต่ำกว่า 18 ปี รวมถึงการเปลี่ยนรูปแบบการชำระเงินที่ค่อนข้างเข้มงวดและชวนให้ปวดหัวสำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่แทบจะต้องรับผิดชอบทุกอย่างเองทั้งหมด รวมการรักษาความปลอดภัยของบัญชีที่ FB จะไม่รับผิดชอบความเสียหายใด ๆ



สำหรับท่านใดที่มีเพจร้านค้าออนไลน์ อยากโฟกัสแค่การดูแลการผลิตสินค้า ผลิตภัณฑ์ หรือบริการต่าง ๆ เพราะไม่ถนัดในการบริหารดูแลร้านค้า หรือไม่มีเวลาติดตามอัพเดตข้อมูลการเปลี่ยนแปลงกฎ หรือรูปแบบของเฟสบุ๊กที่มีการอัพเดตอยู่สม่ำเสมอสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่